Friday, December 31, 2010

Everybody's Fine (2009)

Frank Goode(Robert De Niro) ต้องรับมือกับสถานะพ่อหม้ายหลังจากภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว 8 เดือน ต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านตามลำพัง เขาได้รับการแนะนำให้รับมือช่วงเวลานี้ ด้วยการใช้เวลาให้หมดไปกับงานต่างๆ ภายในบ้าน แต่ตอนนี้เขากำลังรู้สึกสุขใจกับการตระเตรียมสิ่งของ เพื่อต้อนรับบรรดาลูกทั้ง 4 คน ของเขา ที่ให้สัญญาไว้ว่าจะมาพบปะพูดคุยพร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้าน แต่สิ่งต่างๆ ที่เขาเตรียมไว้กับไม่ได้ใช้ เมื่อลูกๆของเขา เริ่มโทรมายกเลิกนัดจนครบทุกคน สิ่งที่เตรียมไว้จำเป็นต้องยกเลิกไป Frank จึงตัดสินใจไปเยี่ยมลูกๆทั้ง 4 แทน โดยไม่บอกก่อนล่วงหน้า นอกจากหวังให้ลูกประหลาดใจแล้ว ยังเป็นการไปดูชีวิตความเป็นอยุ่ของพวกเขาว่าอยู่ปกติสุขดีไหม

Everybody's Fine หนังแนวดราม่า ที่ได้ดาราใหญ่มากฝีมือ อย่าง Robert De Niro รับบทพ่อหม้ายลูก 4 วัยเกษียณ ที่ต้องมีชีวิตอยู่ลำพังหลังจากภรรยาเสียไปได้ 8 เดือน แถมยังมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอดเนื่อง จากสุบบุหรี่จัดในช่วงวัยทำงาน ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นสิ่งต้องห้ามของเขา เขายังได้รับคำแนะนำสำหรับการใช้ชีวิตในช่วงวัยเกษียณ ให้หมดไปกับงานบ้านและงานในสวน แต่เขาก็ตัดสินใจออกเดินทาง หลังจากที่รู้ว่าลูกๆของเขา ยกเลิกการมาเยี่ยมเขาที่บ้าน และนี่เป็นอีกครั้งกับ ยี้ห้อ ของ Robert De Niro กับหนัง แนว ดราม่า ที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ครั้งนี้เขารับบทเป็น พ่อผู้ห่วงใยลูกๆ ที่ต้องการเข้ามาทำหน้าที่แทน ภรรยาของเขา โดยก่อนหน้านั้น เขาหมดเวลาไปกับการทำงานหนักเพื่อครอบครัว และการตั้งความหวังกับลูกๆของเขา เพื่อหวังจะให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้ไกลกว่าตัวเขาเองผู้เป็นพ่อ นั้นเป็นความฝันของเขา ความฝันเดียวของเขาก็คือ ฝันที่จะเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ

นอกจากจะได้นักแสดงนำอย่าง Robert De Niro แล้ว ยังมีนักแสดงสมทบที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี อาทิ Drew Barrymore ,Kate Beckinsale และ Sam Rockwell เพิ่มความเข้มข้นให้หนังมากขึ้นอีก

Everybody's Fine นอกจากไม่ใช่หนังทำเงินแล้วยังเป็นขาดทุนซะด้วยซ้ำไป แต่ก็ยังเป็นหนังที่น่าดูที่มีแง่คิดดีดีมากมาย เกี่ยวกับครอบครัว ตัวหนังเองทำให้เราเห็นว่า ในครอบครัวๆนึง มีหลากหลายปัญหาซ้อนทับกันไปมา การคลี่คลายก็มีอยู่หลากหลายวิธี ขอเพียงแต่มีการพบปะพูดคุยกัน ปัญหาก็สามารถที่จะคลี่คลายไปตามทางของมันเอง

ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
"We got wines from all over the world. We got English wines from France, we got Italian wines from all over Europe."

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- Everybody's Fine ผลงานกำกับของ Kirk Jones เป็นเรื่องที่ 3 โดยเขามีผลงานก่อนหน้านี้คือ Nanny McPhee (2005) และ Waking Ned (1998)
- Everybody's Fine เป็นการนำผลงานของผู้กำกับอิตาเลียน Giuseppe Tornatore จากเรื่อง Stanno Tutti Bene ในปี 1990 นำมาสร้างใหม่อีกครั้ง
- สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่คือคอนเนตทิคัตและนิวยอร์ค มีบางฉากที่ถ่ายทำในมหาวิทยาลัยเยล

Soundtrack
"(I Want To) Come Home" เพลงบัลลาดประกอบภาพยนตร์ แต่งขึ้นโดย Paul McCartney ซึ่งประทับใจหลังจาก่ได้ชมบทบาทแสนกินใจของ Robert De Niro ในบทของ Frank ที่พยายามทำความเข้าใจความคิดของลูกๆที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ นอกจาก "(I Want To) Come Home" ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย
(I Want To) Come Home by Paul McCartney
Directed byKirk Jones
Produced byGianni Nunnari
Ted Field
Vittorio Cecchi Gori
Glynis Murray
Written byKirk Jones
StarringRobert De Niro
Drew Barrymore
Kate Beckinsale
Sam Rockwell
Katherine Moennig
Music byDario Marianelli
CinematographyHenry Braham
Editing byAndrew Mondshein
Distributed byMiramax Films
Release date(s)December 4, 2009
Running time99 minutes
CountryUnited States
LanguageEnglish
Budget$21 million

Read More...

Sunday, December 19, 2010

Monsters (2010)

รูปแบบของสิ่งมีชีวิตอุบัติใหม่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ชายแดนสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก ทำให้ครึ่งหนึ่งของประเทศเม็กซิโก ถูกกำหนดไว้ให้เป็น "เขตติดเชื้อ" กองทัพสหรัฐอเมริกาและกองทัพเม็กซิกัน ยืนหยัดต่อสู้เพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตนั้น สิ่งมีชีวิตใหม่เหล่านั้น มีผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนที่ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ ในขณะที่ Andrew Kaulder(Scoot McNairy) ช่างภาพนิตยสารอเมริกัน อยู่ระหว่างการเก็บภาพเหตุการณ์ต่างๆในอเมริกากลาง ได้ถูกขอร้องแกมบังคับจากเจ้านายให้พา Samantha Wynden(Whitney Able) ลูกสาวเจ้าของนิตรสารที่เขาทำงานอยู่ กลับบ้านที่อเมริกา Andrew จึงจัดการซื้อตั๋วข้ามฟากเพื่อพา Samantha กลับไปยังบ้านของเธอ แต่เขากลับพลาดเมาในคืนก่อนออกเดินทาง ตื่นเช้าพบว่าพาสปอร์ตหายไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถขามฟากได้ พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางทางบกซึ่งต้องตัดผ่านโซนกักกันเพื่อตัดทะลุผ่านเข้าอเมริกา สู่บ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาให้ได้

Monsters หนังสัญชาติอังกฤษ เปิดเรื่องด้วยการกล่าวถึงที่มาที่ไปของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกเมื่อ 6 ปีก่อน ที่องค์การน่าซ่าได้ค้นพบ บางสิ่งที่ที่นาซ่าคาดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในระบบสุริยะจักรวาล ยานอวกาศที่ออกปฏิบัติการจึงได้รวบรวมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น แต่เกิดอุบัติเหตุระหว่างร่อนลงเหนือประเทศเม็กซิโก ไม่นานนักสิ่งมีชีวิตใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ส่งผลให้ครึ่งนึงของประเทศเม็กซิโก ถูกกำหนดให้เป็นเขตติดเชื้อ ซึ่งปัจจุบันกองทัพเม็กซิโกและอเมริกา ยังคงต่อสู้เพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตใหม่ ที่ถือกำเนิดมา ที่พวกเขาเรียกกันว่า "สัตว์ประหลาด" นอกจากนั้นยังจำกัดเขตไม่ให้พวกมันหลุดออกมาจากเขตติดเชื้ออีกด้วย ตัวหนังเดินเรื่อง ด้วยนักแสดงนำสองคนชายหญิง ที่ต้องเดินทางตัดผ่านเขตกักกันเพื่อกลับบ้าน ซึ่งระหว่างทาง ทั้งคู่ได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆ และ และพูดคุยแลกเปลี่ยนรูปแบบการดำรงชีวิตของแต่ละคน นำไปสู่เส้นทางชีวิตของตัวเองที่มุ่งหวังจะให้มันเปลี่ยนไป

จะว่าไปแล้วถึงแม้หนังจะชื่อ "Monsters" แต่กลับไม่ได้มีสัตว์ประหลาดออกมาเพ่นพ่านมากนัก ถ้าหากหวังจะมาดูสัตว์ประหลาด ที่พาเหรดออกมาเยอะๆ คลุ้มครั่งทำลายข้าวของ รับรองได้ว่าผิดหวังแน่นอน เพราะหนังเ้น้นไปที่ การมีอยู่ของสัตว์ประหลาดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนเป็นเรื่องปกติคุ้นชินกันไปแล้ว เพียงแต่อย่าไปล้ำเส้นของมันเท่านั้น(หรือให้มันล้ำเส้นออกมา) ประมาณว่าต่างคนต่างอยู่ แล้วดำรงชีวิตกันไป จะทำอะไรก็ให้รีับๆทำ เพราะสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเร็วมาก จนอาจจะทำให้เราไม่สามารถสะสางเรื่องที่เราคิดว่าจะทำให้เสร็จ จะเห็นได้จาก การที่ Andrew จะคอยถาม Samantha บ่อยครั้ง ว่า "พรุ่งนี้จะทำอะไร"

Gareth Edwards กับหนังเรื่องแรกของเขา ที่เขาเป็นทั้งผู้กำกับและเขียนบทสำหรับหนังเรื่องนี้ ในงบประมาณที่ต่ำมาก เขามีความคิดที่จะทำหนังเรื่องนี้ ในขณะที่ เห็นชาวประมงลากอวน แล้วรู้สึกประหลาดใจที่ได้สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ขึ้นมาอย่างง่ายดาย นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาคิดที่จะทำหนังสัตว์ประลาด ที่ต่างจากหนังสัตว์ประหลาดอื่นๆ เมื่อผู้คนไม่กรีดร้อง ไม่วิ่งหนี แค่เพียงใช้ชีวิตดำเนินไปตามปกติ เมื่อสัตว์ประหลาดตายไป มันก็เป็นแค่เรื่องปกติธรรมดา


ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
"You will do tomorrow."

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- The film was shot in Mexico, Belize, Guatemala, Costa Rica and Texas in the US
- ถ่ายทำใน เม็กซิโก,เบลีซ, กัวเตมาลา, คอสตาริก้าและเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
- 90% ของการถ่ายทำ มีทีมงาน 7 คน(รวมนักแสดงนำ 2คน) ในรถตู้ขนส่ง 1 คัน
- จากการที่มีงบประมาณน้อย จึงไม่ได้ใช้กล้องดอลลี่ แต่ Gareth Edwards แก้ไขได้ด้วยการเอากล้องออกมาติดนอกหน้าต่างรถตู้
Edwards did all the special effects himself using off-the-shelf Adobe software and Autodesk 3ds Ma
- แม้กระทั้ง เทคนิคพิเศษ(special effects) Gareth Edwards จัดการทำด้วยตัวเอง ด้วยโปรแกรมในกลุ่ม Adobe และ Autodesk 3ds Max
- นักแสดงนำฝ่ายชายและหญิง ในชีวิตจริง ทั้งคู่คือสามีภรรยากัน

Soundtrack by Jon Hopkins
1.Prologue (01:14)2.Journey (02:52)
3.Candles (02:28)4.Water (01:18)
5.Underwater (02:00)6.Spores (01:47)
7.Campfire (02:36)8.Dawn (01:58)
9.Attack (01:57)10.Temple (02:30)
11.Encounter (05:49)12.Monsters Theme (04:55)

Track 12. Monsters Theme


Directed byGareth Edwards
Produced byAllan Niblo
James Richardson
Written byGareth Edwards
StarringWhitney Able
Scoot McNairy
Music byJon Hopkins
CinematographyGareth Edwards
StudioVertigo Films
Distributed byVertigo Films
Release date(s)June 23, 2010 (2010-06-23) (LAFF)
December 3, 2010 (2010-12-03) (United Kingdom)
Running time94 minutes
Country United Kingdom
LanguageEnglish
Budget under $500,000

Read More...