Sunday, September 19, 2010

Run Lola Run (1998)

Lola (Franka Potente) ได้รับโทรศัพท์จาก Manni (Moritz Bleibtreu) แฟนหนุ่ม อธิบายถึงการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าผ่านไปด้วยดี และกลับมาพร้อมกับเงิน 100,000 มาร์คเยอรมัน แต่ระหว่างเดินทางกลับแต่เขากับทำเงินจำนวนหายในรถไฟใต้ดิน ทำให้เขาไม่มีทางเลือก จึงวางแผนที่จะปล้นซุปเปอร์มาร์เก็ตในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเงินมาชดใช้คืนก่อนที่หัวหน้าจะรู้เรื่องและโดนเก็บ Lola ขอร้องให้เขาคอยก่อนและจะจัดการแก้ไขปัญหาให้ Manni ตกลง ให้เวลา Lola 20 นาที ซึ่งจะเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี ถ้าหาก Lola ไม่มา เขาจะดำเนินการตามแผนที่เขาวางไว้ทันที Lola จึงต้องรีบตัดสินใจวิ่งหาทางออกเพื่อช่วยเหลือแฟนหนุ่มให้ได้ ภายในเวลา 20 นาที!!!

หญิงสาวต้องหาเงิน 100,000 มาร์คเยอรมัน ในเวลา 20 นาที เพื่อแก้ปัญหาให้กับแฟนหนุ่ม คือพล็อตหลักของภาพยนตร์จากเยอรมัน เป็นผลงานสร้างชื่อให้กับ Tom Tykwer ผู้กำกับมากความสามารถชาวเยอรมัน(คนเดียวกันที่กำกับ Perfume: The Story of a Murderer ในปี 2006) Run Lola Run หรือในชื่อเยอรมัน "Lola rennt" เหมือนกับหนังสั้นที่มีการนำอนิเมชั่นมาร่วมในบางฉากด้วย กับบทสรุปที่แตกต่างกันไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในแต่ละรอบวิ่งของตัวเอกผมแดงเพลิงสะดุดตาและมีเสียงอันทรงพลัง ซึ่งทั้งเรื่องจะมีการวิ่ง 3 รอบ ในแต่ละรอบวิ่งของตัวเอก ผู้คนที่ตัวเอกพบปะบนท้องถนนระหว่างการวิ่ง หรือ มีบทสนทนา จะได้รับผลกระทบ ทำให้วิถีชีวิตในอนาคตของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละรอบ เช่นเดียวกับ Lola เองก็ได้เรียนรู้ความผิดพลาดจากการวิ่งในแต่ละรอบ และนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขในการวิ่งครั้งถัดไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการเล่นวีดีโอเกมส์ เมื่อเกมโอเวอร์ ทำให้รู้ถึงความผิดพลาด เมื่อเริ่มเล่นใหม่ก็แก้ไขส่วนที่ผิดพลาดนั้นเสียได้เพื่อจะเล่นให้จบเกมส์นั้นไป จากเรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่ารายละเอียดแม้เพียงนิดเดียว ก็อาจทำให้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปได้ นอกจากนี้ยังนับได้ว่า การเล่าเรื่อง ของ Run Lola Run ได้ที่สร้างรูปแบบการเล่าเรื่องให้กับหนังในยุคต่อๆมาอีกหลายๆเรื่อง

ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
"After the game is before the game."
จุดสิ้นสุดของเกมส์นั้นเป็นการเริ่มต้นใหม่ของอีกเกมส์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- มาร์กเยอรมัน(Deutsche Mark) เป็นสกุลเงิน ที่ใช้ใน เยอรมันตะวันตก(1948–1990) และในเยอรมัน (1990–2002) ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้เงินสกุลยูโรแทนในปี 2002
- Run Lola run ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด 41 รางวัล ได้รับรางวัลไป ถึง 26 รางวัล ซึ่งรวมถึง Audience Award World Cinema จาก Sundance Film Festival, ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จาก Seattle International Film Festival และ German Film Awards

Soundtrack
1. Believe - Franka Potente 4:54 2 Introduction 5:44
3. Running One 5:29 4 Supermarket 4:40
5. Running Two 4:11 6 Running Three 4:56
7. Casino 7:09 8 Somebody Has To Pay - Susie van der Meer 3:23
9. Wish (Komm zu mir) - Franka Potente & Thomas D 4:05 10 Introduction (Remix) - Sun Electric 4:56
11. Supermarket (Super Clemek Remix) Clemek feat. Cle 5:28 12 Running One (Large Mix) Lee Spencer & Johnny Klirnek 4:42
13. Running Two (Remix) - Operation Phoenix 4:08 14 Casino (Solid State Remix) - Tommi Eckart 5:43
15. (Big) Wish - Franka Potente & Thomas D 3:53 16 Rock Me - Pills 3:34

ตัวอย่าง เพลงประกอบ กับ Track ที่ 1 Believe - Franka Potente

Directed by Tom Tykwer
Produced by Stefan Arndt
Written by Tom Tykwer
Narrated by Hans Paetsch
Starring Franka Potente

Moritz Bleibtreu
Music by Tom Tykwer
Johnny Klimek
Reinhold Heil
Cinematography Frank Griebe
Editing by Mathilde Bonnefoy
Distributed by Sony Pictures Classics
Release date(s) August 20, 1998 (Germany)
June 18, 1999 (US)
Running time 76 minutes
Country Germany
Language German
English
Japanese
Budget $1.75 million
Gross revenue $7,267,585

Read More...

Sunday, September 12, 2010

Dorian Gray (2009)

Dorian Gray(Ben Barnes) ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา นิสัยดีและร่ำรวย อาศัยอยู่ในลอนดอน เขาเป็นชายหนุ่มที่แสนซื่อ จึงถูกชักจูงได้ง่าย นั้นเป็นความผิดเดียวที่เขามี ที่จะทำให้วิญญาณเขาต้องพบกับบาปกรรมอันไม่มีที่สิ้นสุด Henry Wotton (Colin Firth) ได้ชักชวนเขาเข้าในวงสังคมสังสรรค์กับสอนวิธีการเสพสุขสำหรับการใช้ชีวิตในลอนดอน และเป็นผู้ให้แนวทางชีวิตแก่เขาว่า การมีชีวิตควรทุ่มเทเพื่อแสวงหาความสุขแก่ชีวิตให้เต็มที่ การเข้าสังคมทำให้เขามีโอกาสได้รู้จักกับศิลปินในวงสังคม Basil Hallward (Ben Chaplin) ผู้ประทับใจในความงามและความเยาว์วัยของเขา จึงขอวาดภาพเหมือนของเขาซึ่งได้ถ่ายทอดความงามและความอ่อนเยาว์ของเขาอย่างทรงพลังดังภาพมีชีวิต Wotton เอง ก็เห็นชัด จึงกระตุ้น Dorian Gray ว่า การมีความงามและความเยาว์วัยจะทำให้ได้ทุกอย่างสมความปรารถนา Dorian Gray จึงร้องขอความเยาว์วัยต่อเบื้องหน้าภาพวาดนั้น ว่าเขาทำได้ทุกสิ่งแม้จะต้องแลกด้วยวิญญาณของตนก็ตาม นั้นเป็นจุดก่อกำเนิดของวิญญาณบาป และภาพจะฝังด้านมืดของเขาในขณะที่เขาคงอ่อนเยาว์ตลอดไป เพื่อที่เขาจะได้แสวงหาความสุขให้แก่ชีวิตอย่างเต็มที่ วิญญาณของ Dorian Gray จะถลำลึกจนถูกจองจำตลอดไป..หรือจะสามารถหลุดพ้นออกมาได้ มีแต่เพียงตัวเขาเท่านั้น ที่จะแก้ไขได้

ดัดแปลงจาก The Picture of Dorian Gray บทประพันธ์ของ Oscar Wilde และเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1945 ใช้ชื่อเดียวกับบทประพันธ์ สำหรับบทประพันธ์นั้น ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารรายเดือน Lippincott เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 1890 และถูกนำมารวบรวมแก้ไขดัดแปลงและเพิ่มบางบท ตีพิมพ์รวมเล่มในเดือนเมษายน ปี 1891 แต่ก็บ่อยครั้งที่หน้าปกถูกเปลี่ยนชื่อว่า "The Portrait of Dorian Gray." ที่แสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายจากการกระทำและจิตใจมนุษย์แสดงออกมาเป็นรูปธรรมโดยใช้สัญลักษณ์ผ่านทางภาพวาด สำหรับฉบับภาพยนตร์ ในปี 2009 ใช้ชื่อ Dorian Gray กับการได้นักนักแสดงนำหล่อเฉียบขาดตามบทแล้วด้วย ยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าแนวโน้มของภาพยนตร์น่าจะออกมาดี แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับทำออกมาได้จริงน่าผิดหวัง การนำเสนอบางฉากขาดชั้นเชิงการนำเสนอและออกมาแบบกล้าๆกลัว(อาทิ ฉากเริงโลกีย์) ทำให้ภาพยนตร์ออกมาครึ่งๆกลางๆ แม้กระทั้งตอนที่ตัวเอกกลับจากการท่องเที่ยว ไม่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างตอนก่อนไปและตอนกลับมาเลย น่าเสียดายแทนทั้งๆ ที่ พล็อตเรื่องดีอยู่แล้ว น่าจะทำได้ดีกว่านี้ อาจเป็นเพราะมีการคาดหวังไว้สูงเมื่อมีการนำมาเปรียบเทียบกับบทประพันธ์ดั้งเดิม ทำให้เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะจัดว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าผิดหวังอีกเรื่อง

ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
"pleasure is very different from happiness."
ความสำราญต่างจากความสุขมากมายนัก


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- Oscar Wilde เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1854 เป็นนักเขียน นักกวีคนสำคัญชาวไอริช มีผลงานการเขียนบทละคร และเรื่องสั้นเป็นจำนวนมาก เขาเคยถูกฟ้องร้องในคดี มีพฤติกรรมอันเป็นการอนาจาร (gross indecency) กับผู้ชายด้วยกันเอง ทำให้เขาสูญเสียชื่อเสียงและถูกจำคุกสองปี หลังจากถูกปล่อยตัว เขาก็ออกจากเกาะอังกฤษไม่กลับมาอีกเลย เขาเสียชีวิตที่ปารีส ขณะอายุได้ 46 ปี
- เรื่อง Dorian Gray ถูกระบุอยู่ในยุคพระราชินีวิคตอเรีย(1837–1901)
- บทภาพยนตร์โดย Toby Finlay เป็นการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของเขา
- Ben Barnes รับบทเป็น Prince Caspian, King Caspian The Chronicles of Narnia:Prince Caspian(2008) และThe Voyage of the Dawn Treader (2010) และถูกวางตัวสำหรับบท King Caspian X ใน The Chronicles of Narnia: The Silver Chair ที่มีโปรแกรมฉายในปี 2012
- ในฉบับหนังสือ Henry Wotton จะไม่มีลูก แต่ในภาพยนตร์ เขามีลูกสาว 1 คน
- Oscar Wilde เคยเขียนลงในจดหมายพูดถึงตัวละครหลัวว่า "Basil Hallward คือตัวเขา : Henry Wotton คือคนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็น : Dorian Gray คือคนที่เขาอยากจะเป็น"
- นอกจากถูกสร้างในชื่อ The Picture of Dorian Gray ในปี 1945 แล้ว ยังถูกสร้างก่อนหน้านั้นในชื่อเดียวกันในปี 1918 กำกับโดย Alfréd Deésy ซึ่งยังเป็นภาพยนตร์เงียบอยู่

เพลงบรรเลงประกอบภาพยนต์ โดย Charlie Mole กับเพลง Sadness Waltz


DirectedbyOliverParker
ProducedbyBarnabyThompson
WrittenbyTobyFinlay(screenplay)
OscarWilde(novel)
StarringBenBarnes
ColinFirth
RebeccaHall
BenChaplin
EmiliaFox
RachelHurd-Wood
MusicbyCharlieMole
CinematographyRogerPratt
EditingbyGuyBensley
DistributedbyMomentumPictures
Releasedate(s)UnitedKingdom 9 September 2009
Australia 12 November 2009
UnitedStates 24 August 2010(DVDpremiere)
Runningtime112 minutes
CountryUnitedKingdom
LanguageEnglish
Grossrevenue£2,967,711


Read More...

Saturday, September 4, 2010

Leap Year (2010)

Anna (Amy Adams) เดินทางไปดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยหวังจะขอแฟนหนุ่มแต่งงาน ตามธรรมเนียมเก่าแก่ของชาวไอริชอันแสนโรแมนติคที่ว่าเมื่อฝ่ายชายถูกฝ่ายหญิงขอในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ จะต้องตอบรับ แต่ระหว่างเดินทางเธอต้องเผชิญปัญหาต่างๆนานา แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเธอจึงฝ่าฟันปัญหาต่างๆ มาได้ จนในที่สุดเธอก็มาพบโรงแรมเล็กๆ น่ารักกับเจ้าของนิสัยห่ามๆ ชื่อว่า Declan (Matthew Goode) เธอได้ว่าจ้างให้ Declan ขับรถไปส่งที่ดับลิน เดิมที Declan ปฏิเสธ แต่เพราะเขามีปัญหาด้านการเงินทำให้เขารับข้อเสนอในที่สุด ทั้งคู่จึงเดินทางร่วมกันและเจอเรื่องราวต่างๆจนทำให้เกิดความเข้าใจกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เธอจะทำอย่างไรระหว่างคนรักที่กำลังไปหากับปิ๊งรักครั้งใหม่ที่อยู่ใกล้ๆ

ภาพยนตร์ romantic comedy กับการกลับมารับบทนักแสดงนำของ Amy Adams จาก "Enchanted" ภาพยนตร์บันเทิงเนื้อหาเบาๆ กับบรรยากาศผ่อนคลาย นอกจากจะได้ดูหนังแล้วคุณได้ดูสถานที่สวยงามอีกด้วย เพราะถ่ายทำในไอร์แลนด์ไม่ว่าจะเป็น Wicklow , Dublin และ Galway มีสถานที่น่าเที่ยวหลายที่ เหมือนกับเป็นภาพยนตร์ romantic comedy และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัว แต่สถานที่ต่างๆ ที่ปรากฎในภาพยนตร์ น่าจะเด่นเตะตาเลยมากกว่านี้ แต่อาจเป็นเพราะฝีมือนักแสดงนำทั้งสอง(โดยเฉพาะ Amy Adams)ในบทกุ๊กกิ๊ก ที่กลบความเด่นของสถานที่ไปเสียหมด แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างรอยยิ้มแก่คุณได้ไม่ยากเลย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- ผู้กำกับ Anand Tucker มีพ่อเป็นขาวอินเดียและมีแม่เป็นชาวเยอรมัน เรียนมัธยมที่ฮ่องกง อายุ 18 เขาย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ Anand Tuckerเกิดมื่อปี 1963 ที่กรุงเทพฯ
- Leap Year คือ ปีอธิกมาส หรือ ปีที่มี 366 วัน(ปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน) ซึ่ง 4 ปีจะมีครั้งนึง
- Junebug(2005),Enchanted(2008) และ Doubt(2008) คือภาพยนตร์สร้างชื่อของ Amy Adams
- Amy Adams เกิดที่เมือง วิเชนซ่า ในประเทศอีตาลี เป็นคนที่ 4 จากพี่น้อง 7 คน

เพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์ โดย Randy Edelman
1.Anna's Theme (2:55)2.Hymn to a Faery King (1:56)
3.The Slea Head Cliffs (4:41)4.Declan's Walk (1:43)
5.Ballycarbery Castle (3:35)6.Stirring the Pot (2:42)
7.An Early Sunrise (1:45)8.A Leap Year Promise (3:43)
9.Stoney Road to Dublin (2:12)10.Racing for the Train (1:20)
11.Morning On Boston Common (4:28)12.Bed and Breakfast (1:51)
13.A Steep But Beautiful Climb (2:33)14.Dingle's Senior Citizens (2:06)
15.Crossroads (2:46)16.Cross Bow (2:28)
17.A Texas Oasis (2:05)18.Stormy Seas Meet a Peaceful Shore (3:43)
19.Cozy Quartet (1:45)20.Faddle Fiddle (2:07)
21.Arrival In the Big Bad City (1:58)22.One Too Many Martinis (2:28)
23.Irish Schnitzel (1:07)24.One Long Bluesy Night (2:14)
25.A Father's Wish (1:52)26.Home to a Welcome Village (2:48)
27.Don't Mind the Black Cat (2:06)28.V.O. Lyle (1:33)
29.Love and Warmth O'er Yonder (1:11)30.A Stinging Truth (0:56)
31.Right Time … Wrong Guy (0:59)32.Settling the Bill (1:55)
33.Offering the Claddagh Ring (2:32)
ตัวอย่าง เพลงประกอบ กับ Track ที่ 33 Offering the Claddagh Ring
ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
“may you never steal, lie or cheat. But if you must steal,then steal away my sorrows.And if you must lie,lie with me all the nights of my life.And if you must cheat,then please cheat death,because l couldn't live a day without you.”
อย่าได้ริที่จะขโมย โกหก หรือโกง แต่ถ้าคุณต้องขโมย จงขโมยความโศกเศร้าของฉันไป และถ้าคุณต้องโกหก จงทำเพื่ออยู่กับฉันตลอดไป ถ้าคุณต้องโกง โปรดโกงความตาย เพราะฉันจะอยู่ต่อไปอย่างไรถ้าปราศจากคุณ


Directed byAnand Tucker
Produced byGary Barber
Chris Bender
Roger Birnbaum
Jonathan Glickman
Jake Weiner
Written bySimon Beaufoy
Harry Elfont
Deborah Kaplan
StarringAmy Adams
Matthew Goode
Kaitlin Olson
Adam Scott
John Lithgow
Music byRandy Edelman
CinematographyNewton Thomas Sigel
Editing byNick Moore
StudioSpyglass Entertainment
Distributed byUniversal Pictures
Release date(s)January 8, 2010
Running time100 minutes
CountryUnited States
LanguageEnglish
Budget$19 million
Gross revenue$31,499,921

Read More...

Thursday, September 2, 2010

Perfume: The Story of a Murderer (2006)

ศตวรรษที่ 18 ฝรั่งเศส มีชายผู้หนึ่งมีพรสวรรค์เป็นที่เลื่องลือมากที่สุดแห่งยุค นามว่า Jean - Baptiste Grenouille เติบโตจากเมืองปารีส ซึ่งเป็นธรรมดาที่ปารีสจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงที่สุดเพราะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในยุโรป และที่ปารีสคงไม่มีที่ใดที่กลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียนมากไปกว่าตลาดปลา ที่นี่นั้นเองเป็นที่ที่ Jean - Baptiste Grenouille (Ben Whishaw) ถือกำเนิดขึ้น เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 1738 นับเป็นครรภ์ที่ห้าของผู้เป็นมารดา โดยมารดาของเขาคลอดลูกทุกคนใต้แผงขายปลาและที่ที่ซึ่งสุมทุกอย่างไว้ เด็กที่เกิดมาทุกคนถูกปล่อยให้ตายหรือตายตั้งแต่เกิด พอตกเย็น เศษซากทั้งหมดใต้แผงปลาจะถูกโกยทิ้งลงแม่น้ำ แต่ Jean - Baptiste Grenouille แตกต่างออกไป ทารกน้อยร้องไห้เสียงดังจากใต้แผงขายปลา ทำให้เขาได้รับการช่วยเหลือและมารดาของเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ดังนั้นเสียงแรกที่เล็ดรอดออกจากปากเขาทำให้มารดาของเขาถูกแขวนคอ เขาถูกส่งตัวไปบ้านเด็กกำพร้า แม้จะ 5 ขวบแล้ว เขาก็ยังพูดไม่ได้ แต่เขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่ทำให้เขาไม่เหมือนผู้ใดในโลก ในไม่ช้า เขาเริ่มตระหนักได้ว่าเขามีทักษะการดมกลิ่นอันเหนือมนุษย์เป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้แก่เขาแต่เพียงผู้เดียว เขาเรียนรู้การพูดได้ในที่สุด เมื่ออายุ 13 เขาได้ออกจากบ้านเด็กกำพร้าไปอยู่โรงฟอกหนัง เขากระหายการสูดกลิ่นแปลกใหม่อยู่เสมอมา เป้าหมายของเขาคือได้สูดกลิ่นของทุกสิ่งบนโลกใบนี้ แต่แล้วเขาก็ถูกดึงความสนใจไปสู่กลิ่นอันน่าหลงไหลจากกายหญิงขายลูกพลัม นั้นทำให้เขาเข้าใจแจ่มแจ้ง ทำไมเขาจึงมีชีวิตอยู่มาได้อย่างทรหดอดทน ชีวิตอันแสนลำเค็ญของเขามีโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น โชคชะตาสำหรับเขาคือการที่จะต้องเรียนรู้การเก็บรักษากลิ่น เพื่อจะได้ไม่มีวันสูญเสียกลิ่นหอมเช่นนั้นอีก ในภายหลังเขาได้มีโอกาสทำงานและเรียนรู้การทำน้ำหอมจาก Giuseppe Baldini (Dustin Hoffman) ที่ที่ซึ่งเติมเต็มความต้องการของเขา และเรื่องราวต่างๆก็เริ่มขึ้น และนำเขาไปสู่แท่นประหาร

Perfume: The Story of a Murderer กำกับโดย Tom Tykwer ผู้กำกับสัญชาติเยอรมัน เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากผลงานกำกับเรื่อง Run Lola Run (1998) Perfume: The Story of a Murderer สร้างจากนวนิยายโดย Patrick Süskind เป็นภาษาเยอรมันเรื่อง Das Parfum ที่ตีพิมพ์ในปี 1985 ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถขายได้กว่า 15 ล้านเล่มจากทั่วโลก จนได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 20 ภาษาทั่วโลก Perfume: The Story of a Murderer เป็นการใช้พลังของกลิ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ประกอบไปด้วย รูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัส ที่จะทำให้คนเราเกิดกิเลสต่างๆ ไม่สิ้นสุด (ตัวเอกของเรื่องต้องการสูดกลิ่นทั้งหมดในโลก และต้องการรักษากลิ่นเอาไว้)ถึงแม้ในหนังเราไม่สามารถได้กลิ่น แต่เราก็สัมผัสได้ถึงพลังของน้ำหอม

จากการประสบความสำเร็จจากหนังสืออย่างท้วมท้น แน่นอนว่าจะเป็นความกดดันในการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ประกอบกับสถิติที่มีก็น้อยมาก ที่หนังจะประสบความสำเร็จเทียบเท่ากับหนังสือ(ส่วนมากจะประสบความลำเค็ญซะมากกกว่า) การดูหนังเรื่องจึงเป็นการดูแบบฆ่าเวลา แถมยังแปลกใจว่าทำไม Dustin Hoffman ถึงมารับบทเล็กๆ ด้วย แต่พอดูๆไป แล้วได้แต่บอกตัวเองว่า เป็นหนังที่เกินคาดจริงๆ(อาจจะเป็นเพราะว่าคาดหวังในตัวหนังต่ำก่อนอยู่แล้ว) นอกจากนั้นบรรยากาศของหนังทำให้อดคิดถึงเรื่อง "Amadeus"(โดยส่วนตัวผมชอบมาก) ไม่ได้เลย ดังนั้นคงไม่เกินเลยไปเลย ถ้า Perfume: The Story of a Murderer จะเป็นหนังที่เกินความคาดหมายสำหรับคุณเหมือนกันครับ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- Stanley Kubrick เคยระบุว่า ไม่สามารถนำนวนิยายเรื่องนี้มาสร้างภาพยนตร์ได้ เนื่องจากไม่สามารถถ่ายทอดกลิ่นต่างๆ ในเรื่อง
- นอกจาก Tom Tykwer กำกับเองแล้วยังเขียนดนตรีประกอบอีกด้วย
- Das Parfum ถูกตีพิมพ์ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2536 แปลโดย "สีมน" ใช้ชื่อเรื่องว่า "น้ำหอม"
- เราจะรู้เรื่องราวของ Patrick Süskind น้อยมาก เพราะได้ปลีกตัวออกจากแวดวงวรรณกรรมของเยอรมันและไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือถ่ายรูป
- Dustin Hoffman อยากจะทำงานร่วมกับ Tom Tykwer มาก ตั้งแต่ที่เขาได้ดู Run Lola Run
Soundtrack
1.Prologue - The Highest Point (1:51)2.Streets Of Paris (3:11)
3.The Girl With The Plums (5:27)4.Grenouille's Childhood (5:16)
5.Distilling Roses (1:52)6.The 13th Essence (2:29)
7.Lost Love (1:45)8.Moorish Scents (5:15)
9.Meeting Laura (4:14)10.The Method Works! (3:32)
11.Grasse In Panic (5:33)12.Richis's Escape (4:30)
13.Laura's Murder (3:06)14.Awaiting Execution (3:06)
15.The Perfume (5:32)16.The Crowd Embrace (3:04)
17.Perfume - Distilled (7:12)28.Epilogue - Leaving Grasse (3:01)

ตัวอย่าง เพลงประกอบ กับ Track ที่ 3 The Girl With The Plums

ประโยคเด็ดจากภาพยนตร์
"Your grandiose failure will also be an opportunity for you to learn the virtue of humility."
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่จะเป็นโอกาสให้เรียนรู้คุณค่าของความถ่อมตน

Directed byTom Tykwer
Produced byBernd Eichinger
Written byScreenplay:

Andrew Birkin

Bernd Eichingerr

Tom Tykwer

Novel:

Narrated by John Hurt

StarringBen Whishaw

Dustin Hoffman

Alan Rickman

Rachel Hurd-Wood

Karoline Herfurth
Music by Tom Tykwer

Johnny Klimek

Reinhold Heil
CinematographyFrank Griebe
Editing byAlexander Berner
Distributed byConstantin Film (Germany)

DreamWorks Pictures (US)

Pathé (UK) (UK)

Summit Entertainment (international sales)

Universal Pictures

Hoyts (Australia)
Release date(s)Germany September 14, 2006 (2006-09-14)

United States December 27, 2006
Running time145 minutes
Country Germany

Spain

France
LanguageEnglish
Budget€50 million (US$63.7 million)
Gross revenue US$135,039,943 (worldwide)


Read More...